How to Create Eroded Metal Text with Photoshop
อันดับแรกเราต้องการที่จะทำตัว pattern ของจุดก่อน เริ่มที่สร้างหน้าต่างขนาด100 X 100 pixels Resolution set เป็น 300 pixels/inch ใส่ Background สีดำ ไปที่เครื่องมือ Elliptical Marquee Tool และ Fixed Size ตั้งค่า the Width and Height เป็น 24 X 24 pixels. เพื่อกำหนด Style ให้สามารถคลิกบนพื้นที่ใดก็ได้บนหน้ากระดาษ จากนั้นคลิกเลือก และลาก selection ไปยังตำแหน่งบนซ้ายของ canvas แล้วใส่สีขาวลงไป จากนั้นย้ายตำแหน่ง selection ลงมาที่ด้านล่างของจุดแรก ให้มันตรงกับจุดตัดของเส้นไกด์ โดยกด Shift+ลูกศร เลื่อนลง 4 ครั้ง มันจะเลื่อนลงมา 40 pixels แล้วเติมสีขาวลงไป ทีนี้ให้ กด Shift+ลูกศรเลื่อนขึ้นไป 2 ครั้ง 20 pixels และเลื่อนไปทางขวาอีก 2 ครั้ง 20 pixels แล้วเติมสีขาวลงไป เลื่อน selection อีกครั้ง กด Shift+ลูกศร เลื่อนไปทางขวา 2 ครั้ง 20 pixels และเลื่อนลงอีก 2 ครั้ง 20 pixels แล้วเติมสีขาว จากนั้นกด Shift+ลูกศรเลื่อนไปด้านบน 4 ครั้ง 40 pixels แล้วเติมสีขาว จนครบตามภาพตัวอย่าง
ทีนี้ลากเส้น guide ลงมา 2 เส้นให้อยู่กึ่งกลางของภาพ แล้วใช้ Rectangular Marquee Tool ลากคลุม selection ให้อยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยมด้านในของเส้นไกด์ ตามภาพตัวอย่าง แล้วไปที่ Edit > Define Pattern แล้วตั้งชื่อว่า "Holes." ทีนี้คุณก็จะได้ pattern ที่สร้างขึ้นมาเองไว้แล้ว คุณสามารถปิดหน้าต่างนี้ได้
ทีนี้เรามาสร้าง document ใหม่ ขนาด 1450 x 700 pixels , resolution of 300 pixels/inch, Color Mode is set to RGB แล้วให้พิมข้อความขึ้นมา ในที่นี้เราใช้ฟอนต์ Arial Black size of 116 pt
ทีนี้เรามาใส่ Layer Style อันแรกให้เราใส่ Stroke settings: Size set to 10 pixels, Position set to Inside, Blend Mode of Normal, Opacity at 100% and color set to black และ Pattern Overlay and use the following settings: Blend Mode set to Normal, Opacity at 100%, Pattern set to "Holes," and scale set at 50%.
ดูตามภาพตัวอย่างได้
ปิดตาเลเยอร์ "Background" แล้วสร้างเลเยอร์ใหม่ตั้งชื่อว่า "2 Alpha." แล้วไปที่ Image > Apply Image and และติ๊กเครื่องหมายที่ช่อง Invert. นี่จะทำให้ มองเห็นเป็นตัวมุมมองที่มันตรงกันข้ามกัน ตามภาพ
ให้กด Ctrl+ Click ที่เลเยอร์ "2 Alpha" เพื่อที่จะให้มัน selection แล้วให้ copy (Ctrl+ C) แล้วไปที่ Channels Palette new layer ขึ้นมาแล้ว paste (Ctrl+ V) เสร็จแล้วกด (Ctrl+ D) เพื่อเอาตัว selection ออก มันจะได้ออกมาตามภาพ
จากนั้นกลับมาที่ Layers Palette เราไม่ต้องใช้เลเยอร์ "2 Alpha" อีกแล้วให้เราลบทิ้งไป แล้วไปที่เลเยอร์ที่พิมพ์ข้อความให้เราเปิด Layer Style แล้วไปที่ Pattern Overlay เพื่อเราจะปิดตาการแสดงผล แล้ว เซ็ทค่าสีฟอนต์ใหม่เป็นสีขาว ในภาพตัวอย่างนั้น ชื่อของเลเยอร์จะเป็นไปตามข้อความที่เราพิมพ์ไว้ หากคุณพิมพ์ข้อความอื่นที่ไม่เหมือนข้อความตัวอย่างชื่อ เลเยอร์ก็จะเป็นไปตามชื่อข้อความของคุณ ในที่นี้ชื่อเลเยอร์จึงเป็นชื่อ "PSD" ตามที่เราพิมพ์
สร้างเลเยอร์ขึ้นมาใหม่ วางไว้บนสุดตั้งชื่อ "2 Alpha" อีกครั้ง เพราะว่าอันนี้จะไปที่ alpha channel ดูก่อนว่าที่เลเยอร์ "Background" นั้นปิดตาการทำงานอยู่รึปล่าวถ้ายังให้กลับไปปิดตามันก่อน แล้วไปที่ Image > Apply Image และเอาที่ติ๊กในช่อง Invert ออก.
ทีนี้ให้เรากด Ctrl+ Click ที่เลเยอร์ "2 Alpha" เพื่อเปิด selection แล้ว copy กด Ctrl+ C แล้วไปที่ Channels Palette แล้วสร้างเลเยอร์ใหม่ขึ้นมา แล้ว paste กด Ctrl+ V เพื่อวาง ขณะนี้คุณอยู่ที่ Channels Palette ให้กด Ctrl+ Click ที่ "Alpha 1" channel เพื่อเปิด selection
กลับมาที่ Layers Palette แล้วสร้างเลเยอร์ใหม่ชื่อ "Text." เซ็ท Foreground Color เป็น เทา 80% โดย กด Alt+ Delete จากนั้นเอาตัว selection ออก ลบเลเยอร์ 2 Alpha ออกด้วย ให้มันได้ออกมาตามภาพตัวอย่างนี้
ตั้งแต่นี้ไป เราจะทำ background ทึบเพื่อเข้าสู่ ขั้นตอนสุดท้ายของภาพ เป็นความคิดที่ดีที่จะให้พื้นหลังเข้มกว่า ให้ใส่สี "Background" layer เป็นเทา 90% ทีนี้ให้เรามาใส่ Layer Styles ของเลเยอร์ "Text" อันแรกไปที่ Pattern Overlay settings: Blend Mode set to Soft Light, Opacity at 100%, Pattern set to "Black Marble," which is located in the "Rock Patterns" and Scale set at 100%. อันที่สอง Drop Shadow settings: Blend Mode set to Multiply, Opacity at 100%, Angle set to 120 degrees, Distance set to 16 pixels, Spread set at 30% and Size set to 15 pixels. หรือดูตามภาพตัวอย่าง
ไปที่เลเยอร์ "Text" Duplicate Layer แล้วตั้งชื่อเลเยอร์ว่า "Paint." ให้เราลาก effect ที่อยู่ด้านในทิ้งลงถังขยะตามภาพ
ไปที่ Channels Palette สร้าง เลเยอร์ขึ้นใหม่แล้วไปที่ Filter > Render > Clouds. แล้วไปต่อที่ Filter > Render > Difference Clouds. แล้วเราจะ apply filter นี้อีกครั้ง กด Ctrl+ F 2 ครั้ง แล้วไปที่ Image > Adjustments > Invert. และ Image > Adjustments > Levels (Ctrl+ L) แล้วเซ็ท Input Levels to 200, 1, 255.พื้นที่สีขาวในภาพนี้เป็นส่วนของสีที่กัดเซาะ กด Ctrl-Click ที่ channel เพื่อเปิด selection.
กลับมาที่ เลเยอร์ "Paint" แล้วกด Delete เพื่อลบตรงที่เป็น selected area แล้วไปที่ เลเยอร์ Duplicate Layer แล้วตั้งชื่อว่า "Grain." ให้ปิดตาการแสดงผลของเลเยอร์นี้ไว้ก่อน จากนั้นก็เอาตัว selection ออก
หลับไปที่เลเยอร์ "Paint" เพื่อที่จะใส่ Layer Style : Drop Shadow ตั้งค่าตามนี้ : Blend Mode set to Multiply, Opacity at 100%, Angle set to 120 degrees, Distance and Spread set to 0, and Size set to 5 pixels.
Inner Glow ตั้งค่าตามนี้ : Blend Mode of Color Burn, Opacity at 35%, and Size set to 1 pixel.
Gradient Overlay: Blend Mode set to Overlay, Opacity at 60%, Gradient set to Black and White, Style set to Linear and Angle set to 90 degrees.
จากนั้น layer "Paint" เปลี่ยน Blending Mode เป็น Soft Light.
สร้างเลเยอร์ใหม่ไว้บนเลเยอร์ "Paint" ตั้งชื่อว่า "Color." ใช้ Gradient Tool เปิดกล่องสีเลือกสีที่เป็น น้ำเงินแดงเกลืองแล้วลากสีตามภาพตัวอย่าง กด Alt+Click ระหว่างเลเยอร์ "Paint" และ "Color" เพื่อเราจะ Clipping Mask ที่เลเยอร์ "Color" เปลี่ยน Blending Mode เป็น Difference
ไปที่เลเยอร์ "Grain" เปิดตาการทำงานขึ้นมา ไปที่ Filter > Artistic > Film Grain ตั้งค่าเป็น the Grain to 10, Highlight Area and Intensity to 0 ,เปลี่ยน Blending Mode เป็น Color Dodge.
กด Ctrl+ Click ที่เลเยอร์ "Text" เพื่อจะ selection สร้างเลเยอร์ใหม่ไว้ด้านบนแล้วตั้งชื่อว่า "Highlight." ใช้ Elliptical Marquee Tool แล้วใช้ปุ่มลูกศรเพื่อเลื่อนตำแหน่งไปทางซ้าย 1 pixel ขึ้นบน 1 pixel แล้วใส่สีขาวลงไป แล้วย้ายมาทางขวา 1 pixel ลงล่าง 1 pixel แล้วกด Delete แล้วใส่ layer style ที่เลเยอร์ "Highlight" Outer Glow : Blend Mode of Overlay, Opacity at 100%, and Size set to 2 pixels.
กลับไปที่ Channels Palette แล้วกด Ctrl+ Click ที่ Alpha 2 เพื่อที่จะ selection แล้วกลับมาที่เลเยอร์ แล้วสร้างเลเยอร์ใหม่ไว้ด้านบน ตั้งชื่อว่า "Highlight 2." เลื่อน selection มาทางขวา 2 pixels แล้วเลื่อนลงมา 2 pixels ใส่สีขาวลงไป เลื่อนไปทางซ้ายอีก 2 pixels เลื่อนขึ้น 2 pixels แล้วกด Delete จากนั้นเอา selection ออก กด Ctrl+D
ไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur แล้วตั้งค่า Radius เป็น 1 pixel. มันจะทำให้ตัวHightlight นั้น smooth มากขึ้น
ไปที่ Channels Palette แล้วกด Ctrl+click ที่ "Alpha 2" เพื่อ selection อีกครั้ง แล้วกลับมาที่ Layers Palette สร้างเลเยอร์ใหม่ไว้บนสุดแล้วตั้งชื่อว่า "Shade." เลื่อน selection มาทางซ้าย 2 pixels แล้วเลื่อนขึ้นมา 2 pixels ใส่สีดำลงไป เลื่อนไปทางขวาอีก 2 pixels เลื่อน ลง 2 pixels แล้วกด Delete
เอา selection ออก กด Ctrl+D แล้วไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur ตั้งค่า Radius เป็น 1 pixel.
กด Ctrl+click ที่ เลเยอร์ "PSD" เพื่อ selection สร้างเลเยอร์ใหม่ไว้บนสุดตั้งชื่อ "Shade 2." ใสสีเลเยอร์สีดำลงไป เลื่อนตำแหน่ง selection ไปด้านบน 2 pixels ซ้าย 2 pixels แล้วกด Delete กด Ctrl+click ที่ เลเยอร์ "PSD" อีกครั้ง แล้วไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur ตั้งRadius เป็น 2 pixels.
กด Ctrl+click ที่ เลเยอร์ "PSD" อีกครั้ง และโหลดเป็น pixels สร้างเลเยอร์ใหม่ไว้บนสุดตั้งชื่อ "Highlight 3." ใส่สีดำ เลื่อนตำแหน่ง selection ลง 2 pixels ขวา 2 pixels แล้วกด Delete กด Ctrl+click ที่ เลเยอร์ "PSD" อีกครั้ง แล้วไปที่ Filter > Blur > Gaussian Blur ตั้งRadius เป็น 1 pixels. แล้วเอา selection ออก
สร้างเลเยอร์ใหม่ ไว้บนเลเยอร์ "Background" ตั้งชื่อว่า Texture ใส่สีดำลงไป ไปที่ Filter > Render > Lens Flare ตั้งค่า the Brightness at 160% และ Lens Type to 50-300 mm zoom. จากนั้นไปที่ Filter > Render > Difference Clouds. ไปที่ Image > Adjustments > Desaturate. ใส่ Glass filter โดยไปที่ Filter > Distort > Glass และ ตั้งค่า: Distortion set to 20, Smoothness set to 2, และ Scaling set at 100%. สุดท้ายใส่ Layer Style / ใส่ Gradient Overlay Style ที่เลเยอร์นี้ตั้งค่า : Blend mode of Multiply and Opacity set at 70%.
เท่านี้คุณก็สามารถทำ effect ในแบบต่างๆ ได้แล้ว โดยสามารถเปลี่ยนสี gradient ที่เลเยอร์ "Color" ได้ และเปลี่ยน Texture ที่ Pattern Overlay ในเลเยอร์ "Text" ได้
วันที่: Fri Jan 10 02:15:29 ICT 2025
|
|
|
|
|
|